วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บทที่ 2 พื้นฐานของระบบสารสนเทศ Fundamentals of Information Systems

แนวคิดเรื่องระบบ (System Concept) ที่แสดงให้เห็นถึงการนำระบบไปใช้ในองค์กรธุรกิจ รวมทั้งส่วนประกอบและกิจกรรมของระบบสารสนเทศ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจแนวคิดอื่นๆ ของเทคโนโลยี โปรแกรมประยุกต์ การพัฒนา และการจัดการระบบสารสนเทศ
การวิเคราะห์ American Management System
     กรณีศึกษาของ American Management System จะช่วยให้ในการเรียนรู้เรื่องประโยชน์และข้อจำกัดของการใช้ระบบสารสนเทศในธุรกิจ   ศูนย์ความรู้ของ AMS (The AMS knowledge Center) เป็นตัวอย่างของระบบสารสนเทศแบบใหม่ เป็นระบบการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management System : KMS) ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ  หลากหลาย เพื่อช่วยให้พนักงานขององค์กรที่มีความรู้ช่วยกันจัดโครงสร้างและแบ่งปันความรู้ทางธุรกิจในรูปของอินทราเน็ตเว็บไซท์ ในหัวข้อ ‘ การปฏิบัติงานที่ดี    ศูนย์ความรู้ของ AMS เป็นหนึ่งในหลายๆรูปแบบของระบบสารสนเทศ ซึ่งมีส่วนประกอบพื้นฐานดังนี้
                   1  ทรัพยากรบุคคล                   2   ฮาร์ดแวร์ 
                   3   ซอฟต์แวร์                   4   ข้อมูล    และ                   5  เครือข่าย

แนวความคิดเรื่องระบบ (System Concept) 
      ระบบ (System) คือ กลุ่มของส่วนประกอบที่มีความเกี่ยวพันระหว่างกัน มีการทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายเดียวกัน โดยการรับข้อมูลเข้าและผลิตข้อมูลออกจากการประมวลผล บางครั้งเรียกว่า ระบบพลวัต (Dynamic System) ประกอบด้วยส่วนประกอบพื้นฐาน 3 อย่างคือ    
              1. การนำเข้า/ข้อมูลนำเข้า (Input) เกี่ยวข้องกับการจับและรวบรวมข้อมูลส่วนย่อยที่ถูกป้อนเข้าสู่ระบบเพื่อใช้ในการประมวลผล
              2. การประมวลผล (Process) เกี่ยวข้องกับการแปลงข้อมูลนำเข้าให้เป็นข้อมูลออก
             3. การส่งออก/ข้อมูลออก/การแสดงผล/ผลลัพธ์ (Output) เกี่ยวข้องกับการโอนข้อมูลส่วนย่อยที่ถูกผลิตโดยการประมวลผลส่งไปยังปลายทาง   
ผลป้อนกลับและการควบคุม (Feedback and Control) 
            ระบบที่มีทั้งผลป้อนกลับและการควบคุมบางครั้งเรียกว่า ระบบไซเบอร์เนติกส์ (Cybernetic System) ซึ่งเป็นทั้งระบบเฝ้าสังเกตด้วยตนเอง (Self-monotiring System) และระบบจัดระเบียบด้วยตนเอง (Self-regulating System)   ผลป้อนกลับ/ผลสะท้อน/ผลส่งกลับ (Feedb ack) เป็นข้อมูลเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานของระบบ เช่น ข้อมูลการปฏิบัติงานของพนักงานขายเป็นผลป้อนกลับไปยังผู้จัดการฝ่ายขาย เป็นต้น   การควบคุม (Control) เป็นการเฝ้าสังเกตและการประเมินผลป้อนกลับว่าระบบได้ดำเนินไปใกล้เป้าหมายหรือไม่ หน้าที่การควบคุมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปรับปรุงข้อมูลนำเข้าและกระบวนการประมวลผลเพื่อให้ได้ข้อมูลออกที่เหมาะสม    ผลป้อนกลับมักรวมหน้าที่การควบคุมไว้ด้วย เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในการปฏิบัติการ 
ลักษณะเฉพาะอื่นๆ ของระบบ (Other Systems Characteristics)
          องค์กรธุรกิจหรือหน่วยราชการเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับระบบทางสังคม (System in Society) สังคมนั้นประกอบด้วยระบบจำนวนมากมาย ทั้งบุคคล สังคม การเมือง และสถาบันเศรษฐกิจ ตัวองค์กรเองประกอบด้วยระบบย่อยมากมาย เช่น ส่วนงาน แผนก คณะทำงาน และกลุ่มงาน
ส่วนประกอบของระบบสารสนเทศ (Components of an Information Systems)
          สำหรับส่วนประกอบและกิจกรรมหลักของระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศนั้นขึ้นอยู่กับทรัพยากรบุคคล
บุคคล ( ผู้ใช้และผู้เชี่ยวชาญสารสนเทศ) ฮาร์ดแวร์ ( เครื่องจักรและสื่อ) ซอฟต์แวร์ ( โปรแกรมและกระบวนคำสั่ง) ข้อมูล ( ข้อมูลและฐานความรู้) และเครือข่าย ( สื่อการสื่อสารข้อมูลและการสนับสนุนเครือข่าย) เพื่อทำการรับข้อมูลเข้า ประมวลผลเป็นข้อมูลออก จัดเก็บ และควบคุมเพื่อแปลงทรัพยากรข้อมูลเป็นผลิตภัณฑ์สารสนเทศ    บุคลากร ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และเครือข่าย เป็นทรัพยากรพื้นฐาน 5 อย่างของระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคล รวมทั้งผู้ใช้ และผู้เชี่ยวชาญสารสนเทศ ทรัพยากรฮาร์ดแวร์อันประกอบด้วยเครื่องจักรและสื่อต่างๆ ทรัพยากรซอฟต์แวร์ซึ่งรวมถึงโปรแกรมและกระบวนคำสั่ง ทรัพยากรข้อมูลอันได้แก่ข้อมูลและฐานความรู้ และทรัพยากรเครือข่ายซึ่งรวมทั้งสื่อการติดต่อสื่อสารและเครือข่าย
 ทรัพยากรระบบสารสนเทศ (Information System Resources)
         แบบจำลองพื้นฐานของระบบสารสนเทศที่แสดงส่วนประกอบพื้นฐาน 5 ประเภทของระบบสารสนเทศที่ควรจะจดจำในการทำงานจริงกับระบบสารสนเทศไม่ว่าระบบใดๆ
ทรัพยากรบุคคล (People Resources) 
       ผู้เชี่ยวชาญสารสนเทศ (IS Specialists) บุคคลที่พัฒนาและควบคุมระบบสารสนเทศ ได้แก่ นักวิเคราะห์ระบบ โปรแกรมเมอร์ ผู้ควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ทรัพยากรฮาร์ดแวร์ (Hardware Resources)
         ประกอบด้วย อุปกรณ์กายภาพ (Physical Devices) และวัตถุดิบที่ใช้ในการประมวลผลสารสนเทศ  ตัวอย่างฮาร์ดแวร์ของระบบสารสนเทศมีดังนี้
      1. ระบบคอมพิวเตอร์ (Computer Systems) ประกอบด้วย หน่วยประมวลผลกลางที่ประกอบด้วยไมโครโปรเซลเซอร์และอุปกรณ์รอบข้างที่หลากหลายเชื่อมต่อกัน
     2. อุปกรณ์คอมพิวเตอร์รอบข้าง (Computer Peripherals) เป็นอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คีย์บอร์ดหรือเมาส์สำหรับการป้อนข้อมูลและออกคำสั่ง จอภาพหรือเครื่องพิมพ์สำหรับแสดงสารสนเทศ จานแม่เหล็กหรือจานนำแสงสำหรับบันทึกข้อมูล 
 ทรัพยากรซอฟต์แวร์ (Software Resources) 
        เป็นชุดคำสั่งของการประมวลผลทั้งหมด ทั้งชุดคำสั่งของการปฏิบัติงานที่เรียกว่า โปรแกรม (Programs) ซึ่งควบคุมการทำงานโดยตรงกับคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ และชุดคำสั่งสำหรับการประมวลผลสารสนเทศที่ผู้ใช้ต้องการ ที่เรียกว่า กระบวนคำสั่ง (Procedures) ได้แก่ 
     1. ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
     2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เป็นโปรแกรมสั่งประมวลผลสำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์เฉพาะอย่างโดยผู้ใช้   
   3.กระบวนคำสั่ง (Procedure) เป็นคำสั่งปฏิบัติการสำหรับผู้ที่จะใช้ระบบสารสนเทศ เช่น คำสั่งสำหรับการจัดฟอร์มกระดาษ หรือการใช้ซอฟต์แวร์โปรแกรมสำเร็จรูป 
ทรัพยากรข้อมูล (Data Resources)
        ข้อมูลเป็นมากกว่าวัตถุดิบของระบบสารสนเทศ เป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่งขององค์กร ดังนั้นควรมีทรรศนะต่อข้อมูลว่าเป็นทรัพยากรที่ต้องมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้ในองค์กร ข้อมูลอาจอยู่ในหลายรูปแบบ ทั้งข้อมูลตัวอักขระที่ประกอบด้วยตัวเลขและตัวอักษร ข้อมูลแบบถ้อยความ ( Text) ประกอบด้วยประโยคและวรรคตอนที่ใช้ในการเขียนเพื่อสื่อสาร ข้อมูลภาพ (Image) ทรัพยากรข้อมูลของระบบสารสนเทศโดยปกติจะรวบรวมเป็นฐานข้อมูล (Databases) ที่เก็บข้อมูลที่ประมวลผลและจัดระเบียบแล้ว  ฐานความรู้ (Knowledge Bases) ที่เก็บความรู้ในรูปแบบหลากหลาย
         ข้อมูลกับสารสนเทศ คำว่าข้อมูล (Data) เป็นพหูพจน์ของคำว่า Datum แต่สามารถใช้ได้ทั้งนามเอกพจน์และพหูพจน์ ข้อมูลเป็นข้อเท็จจริงดิบหรือข้อสังเกต โดยปกติจะเกี่ยวกับปรากฏการณ์หรือรายการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ 
ทรัพยากรเครือข่าย (Network Resources) 
        เครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ การประมวลผลสื่อสารและอุปกรณ์อื่นๆที่เชื่อมโยงระหว่างกันด้วยสื่อการติดต่อสื่อสารและควบคุมด้วยซอฟต์แวร์สื่อสาร แนวความคิดเรื่องเครือข่ายที่เน้นเครือข่ายการติดต่อสื่อฐานเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของทรัพยากรของทุกระบบสารสนเทศ ทรัพยากรเครือข่ายประกอบด้วย 
     1. สื่อการติดต่อสื่อสาร (Communications Media)
   2. การสนับสนุนเครือข่าย (Network Suppo rt) ประกอบด้วย บุคลากร ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และข้อมูลที่สนับสนุนการปฏิบัติงานและการใช้งานเครือข่ายสื่อสารโดยตรง
การนำเข้าของทรัพยากรข้อมูล (Input of Data Resources)
         ข้อมูลรายการทางธุรกิจหรือเหตุการณ์อื่นๆ จะถูกอ่านและเตรียมสำหรับการประมวลผล ในกิจกรรมนำเข้า (Input Activity) ซึ่งโดยปกติจะเป็นการป้อนข้อมูล (Data Entry) โดยผู้ใช้จะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับรายการเปลี่ยนแปลง ( Transaction) จากแบบฟอร์มหรือป้อนโดยตรงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
การประมวลผลข้อมูลสารสนเทศ (Processing of Data into Information)
       ข้อมูลโดยปกติจะประมวลผลโดยกิจกรรม เช่น การคำนวณ เปรียบเทียบ เรียงลำดับ จำแนก และสรุปผล กิจกรรมเหล่านี้จัดระเบียบ วิเคราะห์ และจัดดำเนินข้อมูลเพื่อแปลงเป็นสารสนเทศสำหรับผู้ใช้
การส่งออกของผลิตภัณฑ์สารสนเทศ (Output of Information Products)
       สารสนเทศ คือ การผลิตผลิตภัณฑ์สารสนเทศ (Informaton Products) ที่เหมาะสมแก่ผู้ใช้ในรูปแบบของข้อความ (Message) รายงาน แบบฟอร์ม และภาพกราฟิก ซึ่งอาจจัดแสดงทางจอภาพ ทางกระดาษ ด้วยเสียง หรือสื่อประสม เพื่อใช้ในการทำงานกิจวัตรประจำวันในองค์กรและชีวิตประจำวัน
หน่วยเก็บของทรัพยากรข้อมูล (Storage of Data Resources)
         หน่วยเก็บข้อมูล (Storage) เป็นส่วนประกอบเบื้องต้นของระบบสารสนเทศ การจัดเก็บเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ทำให้ข้อมูลและสารสนเทศอยู่ในรูปแบบที่จัดระเบียบ เป็นเขตข้อมูล (Field) ระเบียน (Record) แฟ้มข้อมูล (File) และฐานข้อมูล (Database) เพื่อใช้ประมวลผลเป็นข้อมูลออกในภายหลัง
การควบคุมผลการปฏิบัติการของระบบ (Control of System Performance) 
         กิจกรรมที่สำคัญของระบบสารสนเทศ คือ การควบคุม (Control) การปฏิบัติการของระบบ ในระบบสารสนเทศจะเกิดผลป้อนกลับของ ข้อมูลเข้า การประมวลผล ข้อมูลออก และการบันทึกข้อมูล ผลป้อนกลับนี้จะใช้เฝ้าสังเกตและประเมินผลการปฏิบัติการของระบบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ และจะถูกปรับปรุงเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์สารสนเทศที่เหมาะสมกับผู้ใช้ต่อไป
แนวโน้มของระบบสารสนเทศ (Trends in Information Systems) 
           บทบาทของระบบสารสนเทศโดยทั่วไป คือ การประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลง (Transaction Processing) การเก็บบันทึกข้อมูล (Record-keeping) งานบัญชี และการประมวลผลข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์    การเติบโตอย่างรวดเร็วของอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ต และการเชื่อมโยงเครือข่ายทั่วโลกในปี 1990s ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในเรื่องความสามารถของระบบสารสนเทศธุรกิจ เครือข่ายองค์กรที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก ( Enterprise and Global Internetworking) เป็นการปฏิวัติผู้ใช้ องค์กร และการใช้คอมพิวเตอร์ระหว่างองค์กร การติดต่อสื่อสาร และความร่วมมือในการสนับสนุนการปฏิบัติการทางธุรกิจและการจัดการความสำเร็จขององค์กรทั่วโลก
ประเภทของระบบสารสนเทศ (Type of Information Systems)
           ระบบสารสนเทศที่ใช้งานจริงมีวิธีการจำแนกได้หลายแบบ ตัวอย่างเช่น จำแนกตามแนวคิดของระบบสารสนเทศปฏิบัติการหรือระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
การจำแนกการปฏิบัติการและการจัดการระบบสารสนเทศ
         1. ระบบสนับสนุนการปฏิบัติการ (Operations Support Systems)
              1.1. ระบบประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลง (Transaction Processing Systems : TPS)
              1.2. ระบบการควบคุมการประมวลผล (Process Control Systems)
              1.3. ระบบความร่วมมือองค์กร ( Enterprise Collaboration Systems)
       2. ระบบสนับสนุนการจัดการ (Management Support Systems : MSS)
             2.1 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information Systems : MIS) 
             2.2 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support Systems : DSS)
            2.3 ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหาร (Executive Information Systems : EIS)
      3. การจำแนกระบบสารสนเทศอื่นๆ (Other Classifications of Information Systems)
            3.1 ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert Systems)
            3.2 ระบบการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Systems)
           3.3 ระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ (Strategic Information Systems) 
           3.4 ระบบสารสนเทศเชิงธุรกิจ (Business Information Systems)
           3.5 ระบบสารสนเทศแบบบูรณาการ (Intergrated Information Systems)   


โดยนางสาว  เบญจมาศ   ภูมิสูง   บ.กจ  3/1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น